top of page

SRIPANWA OMAKASE : Baba IKI




ไปลองมาแล้ว Omakase แบบพรีเมี่ยมสุดๆที่ BABA IKI Sri panwa


ปกติช่วงปลายปีของทุกๆปี ผมชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นไปเที่ยวถ่ายรูปชิลๆและไปสรรหาของกินอร่อยๆที่โน่น แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ไปได้ไกลสุดก็ภูเก็ตครับ มีแพลนจะไปนั่งดื่มที่ Sri Panwa แล้วพึ่งรู้ว่าโรงแรมพึ่งกลับมาเปิดบริการ Omakase อีกแล้ว ปีก่อนคนแน่นมากๆ โทรแล้วถามยังมีที่ว่างพอดี เลยขอถ่ายรูปเล่าประสบการณ์การทานอาหารที่ศรีพันวามาให้เพื่อนๆได้อ่านกันเพลินครับ


ที่ศรีพันวามีห้องอาหารญี่ปุ่นชื่อว่า BABA IKI ซึ่งคำว่า IKI แปลว่า ดื่ม !!! แปลให้ได้อรรถรสว่า หมดแก้ว !!!!!!! ซึ่งบรรยากาศในห้องอาหารก็สนุกสนาน เหมาะสำหรับการทานและจิบๆคุยกับเพื่อนเป็นที่สุด เพลงชิลมากๆ


โดยอาหารมีทั้งหมด 15 อย่าง โดย Chef Kim ที่ชวนคุยและเล่าเรื่องราวของแต่ละเมนูที่ทำให้อาหารแต่ละคำอร่อยขึ้นอีก 35% มาดูกันเลยดีกว่าว่าผมทานอะไรไปบ้าง เผื่อใครอยากพาเพื่อนๆ พาแฟนไปเลี้ยงในโอกาสพิเศษกัน



ส่วนตัวเคยทานอาหารที่ Baba IKI แล้วตอนที่เคยมาพักที่ศรีพันวา อาหารอร่อยดีนะครับและบรรยากาศดี ห้องอาหารจะอยู่ชั้นสอง สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ด้วย แนะนำมาทานสักช่วงพระอาทิตย์ตกก็ชิลดี



สำหรับผู้ที่จะมารังสรรค์อาหารทั้ง 15 อย่างให้เราได้ทานในวันนี้คือ เชพคิม ผมแอบเช็คประวัติเชพคิมมาแล้ว ว่าเป็นเชพที่ทำงานและมีประสบการณ์ทำอาหารมาอย่างยาวนา


เพื่อนๆแอบเล่ามาว่า ที่ศรีพันวา ถ้ามีคอร์สไหนเจ๋งๆเค้าส่งไปเรียนหมด อย่างเช่นพนักงานบางคนที่ ทีมศรีพันวาใจปล้ำ พาไปเที่ยวและดูงาน ไกลถึง Ibiza อยากมีเจ้านายแบบนี้บ้างจัง



สำหรับจานแรก มาแล้วเราได้นั่งดูเชฟทำที่ละคำ ซึ่ง 3 แรกคือ ซาชิมิที่ราดมาด้วยซ๊อสคล้ายๆน้ำปลาผสมด้วยยูสุ ซึ่งแค่คำแรกก็กระตุ้นหรือเรียกว่าย่ำปากให้ทานคำต่อๆไปแล้ว


สำหรับซ๊อสมีกลิ่นหอมปลาอ่อนๆไม่ฉุนผสมกับยูสุที่ให้ความเปรี้ยวและสดชื่นอ แต่ก็ไม่ได้กลบความอรอ่ยของเนื้อปลาทั้งสามชนิด



คำต่อมา ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้เรื่อยๆเมื่อเชฟน้ำเนื้อปลา โอโทโร่ ( ส่วนท้องของปลาทูน่าซึ่งเป็นส่วนที่มีราคาสูง ) มาสับให้ละเอียดและวางบนจานแต่งเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต้มซ๊อสพิเศษผมจำไม่ได้ว่าเป็นซ๊อสอะไรนะ แล้วทอปด้านบนด้วยทรัฟเฟิลและไข่แซลมอนสีเหลือง



หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ทานคู่กับขนมปัง เราเลือกใช้ช้อนตักเนื้อปลาวางบนขนมปังและกัดเป็นคำๆ


ซึ่งในแต่ะละคำจะได้สัมผัสของโอโทโร่แน่นๆ และสัมผัสกลิ่นของของทรัฟเฟิลและบางคำก็จะกัดเจอไข่แซลมอนที่ให้ความเค็มมัน อร่อยดีครับ



แค่ผ่านไป 2 จานก็บอกเลยว่า เต็มไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็นและสนุกกับจานถัดๆไปแล้วครับ



เชฟบอกว่าจานต่อไปเราจะพาไปเที่ยวบ้านนอกของเมืองญี่ปุ่นกันบ้าง เป็น อากามิ ( ปลาทูน่าส่วนเนื้อแดง ) เอามาอบฟางทำให้มีกลิ่นหอมฟาง


* อากามิจะเป็นส่วนด้านข้างตัวปลาทูน่า เป็นส่วนที่มีไขมันน้อยที่สุดเนื้อก็เลยจะแน่นกว่าส่วนอื่นๆ



ทานเข้าไปแล้ว เนื้อแน่นมากๆ แต่เหมือนอย่างที่เชฟเล่าเลยคือได้หอมกลิ่นฟางไปเต็มๆ ปกติผมเป็นคนแพ้ปลาทูน่านะ แต่วันนี้ได้ก้าวผ่านอาการแพ้ เพราะขอยอมในความอร่อยหนึ่งวัน



พักจากปลามาเป็น ซารุกันบ้าง นี่คือ ซารุ ทรัฟเฟิล ที่มาเป็นเส้นซารุและซุปแบบเย็นๆ แต่พอทานเข้าไปแล้วจะได้รับทั้งกลิ่นหอมๆและความเย็น ทานเลินจนอยากจะขออีกจานเลยทีเดียว




เสน่ห์ของการทานแบบ Oamkase คือการที่ได้ดูเชฟทำอาหารในแต่ละจาน ผมว่ามันคือศิลปะนะ แล้วยังบวกกับการที่เราได้มีโอกาสฟังเรื่องราวแรงบันดาลใจของแต่ละเมนูแล้ว ยิ่งทำการทานอาหารแต่ละคำอร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ที่ยังไม่รวมกับตอนมาลุ้นว่าแต่ละครั้งที่มาจะได้ทานอะไรเพราะเมนูไม่เคยซ้ำ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่เชฟหาได้ในเวลานั้นๆด้วยนะครับ



ระหว่างดูเชฟทำอาหารแต่ละจาน ก็มีเวลาให้พูดคุยกับเพื่อนๆรอบๆ นั่งจิบไป นั่งคุยไป เงยหน้าขึ้นไปเจอคำว่า IKI เออที่นี่เป็นไปตามชื่อจริงๆ คือนั่งเพลิน เพลงดี สนุก



สำหรับ Set ต่อไปเซฟจะทำเสิร์ฟทีละชิ้นนะครับ โดยมีเนื้อปลาดังนี้ ปลาฮามาจิ / ชิมะอาจิ / ปลามาได






ถ้าจำไม่ผิดอันนี้น่าจะเป็นปลามาได คล้ายปลากระพงแดง





คำนี้คือ แซลมอนฟูริคาเกะ เป็นซูชิแซลมอนที่ด้านบนโรยด้วยผลที่ทำจาก ปลาโอแห้ง สาหร่าย งาน และส่วนผสมกว่า 10 )


อร่อยและได้รสชาตที่อูมามิมากๆ



จานต่อมาคือ อากามิไข่แดงหมักโชยุ เนื้อทูน่าแน่นๆ ด้านบนสไลด์ไข่แดงที่หมักด้วยโซยุลง สีเหลืองแดงสวยมากๆ



สักพักไข่แดงที่หมักโซยุมาก็จะละลายกลายเป็นไข่เยิ้มๆบนเนื้อปลา คำนี้อร่อยมากๆเพราะจะได้กลิ่นของไข่และโชยุที่ผสมกันมาได้ลงตัว ได้รสชาต



ชิ้นนี่เป็นสโม๊กชูโทโร่ ด้านบนมีฟรัวกรา ( ตับห่าน ) ผสมอยู่ด้วย




ชิ้นนี้หอมอร่อยและถูกใจมากๆครับ โอโทโร่ อาบุริ เป็นการย่างถ่านเบาให้เนื้อมีกลิ่นหอมถ่าน ทอปด้านบนด้วยพอนสึ หัวไช้เท้าและทรัฟเฟิลกลิ่นหอมๆ



ที่นี่เป็นโรงแรมที่รวย ทรัฟเฟิลมากๆ เพราะผมจำได้ว่า อาหารเช้า Signature ของที่นี่คือ Egg Benedict ที่ซ๊อสใส่ลงทรัฟเฟิลลงไปด้วย อร่อยสุดๆ


มาทาน Omakase ก็ยังทรัฟเฟิลใส่ไปในมนูต่างๆเยอะมากๆ ราวกับปลูกได้ที่โรงแรม



อันนี้เลยโคตรฟิน ฟรัวกรา-ดง หรือ Foie-Don เนื้อตับห่านชิ้นใหญ่ๆวางลงบนข้าวที่มีการผสมยูสุ มะนาวและพริกไท หอมๆ ซ่าๆ เผ็ดๆ ทานไปด้วยกัน อร่อยโคตร



ชิ้นใหญ่มาก อยากตัดครึ่งแบ่งกลับบ้าน



มาต่อกันด้วยเนื้อบ้างครับ ชิ้นนี้คือเนื้อมิยาซากิ เนื้อเกรดพรีเมี่ยม ความสุกกำลังดีโรยด้วยเกลือ



ก่อนจะนำไปประกบกับขนมปังที่ป้ายด้วยแกงกะหรี่ กัดเข้าไปแล้วเนื้อให้สัมผัสการเคี้ยวกำลังดี มันอร่อย หอมมากๆ


จริงๆยังมีอีกหนึ่งจานที่ผมลืมถ่ายเพราะเพลิดเพลินกับการกินมากก็คือ ซุปปูอลาสก้า เนื้อแน่นๆที่มากับซุปกลิ่นยูสุ หอมและสดชื่นมากๆ เค้าเอาเปลือกของกุ้งมาทำการย่างไฟให้หอมและนำส่วนผสมมาต้มเพิ่มกลิ่นเข้าไปในซุปครับ



จบปิดท้ายด้วยของหวาน ที่จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็ทำเอาเราตื่นเต้นมากๆ



ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ Omakase มากๆเลย จะมีที่ไหนที่ได้ทาน Omakase อร่อย ได้ชมวิวทะเลจากห้องอาหาร และ Playlist เพลงจะดี จนอยากให้ผมพูดว่า Ikki Nomi ชนแก้ววววว !!! กันตลอดทั้งคืน


ใครที่สนใจอยากจะมีประสบการณ์ Omakase แบบนี้ สามารถไปอ่านข้อมูลได้ที่https://cutt.ly/sripanwa


ราคา 5,000 ++

และแนะนำว่า ต้องจองล่วงหน้าอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ

TAGS

No tags yet.
bottom of page