PHU QUOC ISLAND BY BANGKOK AIRWAYS

ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง ที่จะได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองทะเลใหม่ๆ เพราะแต่ละที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเกาะ Phu Quoc เส้นทางใหม่สุด Boutique จาก Bangkok Airways ที่พาเราเดินทางบินตรงไปยังเกาะที่ตอนนี้คนทั้งโลกกำลังให้ความสนใจ และพูดกันว่านี่คือเกาะสวรรค์ที่พวกเค้ากำลังตามหา ตามไปอ่านกันเลยครับ

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบทะเล ชื่นชอบการพักผ่อนแบบชิลๆ ปล่อยให้เวลาเดินไปอย่างช้าๆ นั่งฟังเสียงคลื่นเบาๆ คุณจะต้องชอบที่ผมเขียนและเรียบเรียงทั้งหมดนี้แน่นอน

แม้ว่าผมจะใช้ชีวิตอยู่กับทะเลอันดามันมากว่า 10 ปี แต่ผมไม่เคยเบื่อเลยครับ แต่การได้ไปเที่ยวทะเลที่อื่นๆก็ยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นและมีความสุขสุดๆ

หากเพื่อนๆพร้อมแล้ว " Fasten Your Seat Belt Open your window shade ให้กว้างที่สุด และสัมผัสประสบการณ์ Phu-Quoc Boutique Journey ไปพร้อมๆกันกับผมได้เลยครับ

Phu-Quoc อ่านว่าฟู๊กกกโกว๊ก วิธีที่ถูกต้องให้บรรจงออกเสียงคำว่าฟู๊กโดยเรียกลมปราณทั้งปอดออกมาให้หมดครับ

Phu-Quoc เป็นเกาะที่อยู่ในอ่าวไทย เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ซึ่งลองคิดเทียบดีๆที่นี้ดูเหมือนจะเป็นภูเก็ตเมื่อ 20 ปีที่แล้วนั่นเอง

ผมได้ยินคำว่า Phu-Quoc ครั้งแรกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่ง เค้าบอกว่าเกาะนี้กำลังเป็นที่นิยมของคนยุโรปเพราะเงียบสงบ ขอใช้คำว่า Fresh สดใหม่และเวอร์จิ้นนั่นเอง ชอบคำนี้จัง

หลังจากนั้นไม่นานผมอ่านข่าวเจอว่า Phu-quoc มีคนให้สมญานามว่า คู่แข่งของเมืองภูเก็ต ว๊ะ !!!!!! เจ๋งจริงป่าว เดี๋ยวจะพาไปดูกัน

Phu-Quoc ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 2 ชั่วโมง โดยสายการบิน Bangkok Airways เป็นสายการบินเดียวที่บินตรงในปัจจุบัน ก่อนเวลา Boarding Time ก็เอาตัวไปนั่งทอดน่อง นิ้วกระดกเครื่องดื่ม ส้อมจิ้มกัดข้าวต้มมัดที่ทำมาอย่างพอดีคำ เป็น Moment การเดินทางที่เริ่มต้นได้สวยงามจริงๆ

ช่วงเวลาโปรดที่ผมชอบอ่านหนังสือมากที่สุดคือ ช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบินครับ

ปัจจุบันสายการบิน Bangkok Airways มีบริการเที่ยวบิน ( ตรง ) Bangkok to Phu Quoc 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ครับ ซึ่งเวลาค่อนข้างดีมากๆ

Bangkok, Suvarnabhumi - Phu Quoc ( PG - 991 ) 11:30 - 13:15 น.

Phu Quoc Bangkok - Bangkok, Suvarnabhumi ( PG 992 ) 13:55 - 15:45 น.

อาหารบนเครื่องก็ดีงามเหมือนเคย การเดินทางมายังเวียดนามไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าครับ

ไม่นานก็ถึงแล้วครับ

ที่สนามบิน Phu Quoc ปัจจุบันรัฐบาลได้ลงทุนและเร่งขยายให้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตครับ

สำหรับคนที่ติดงานหรือต้องการใช้ Internet ก็สามารถซื้อที่สนามบินได้ ราคาประมาณ 250 - 300 บาท / 3Gig เน็ตที่นี่ค่อนข้างโอเค อาจมีช้าๆในบางจุดบางสถานที่ครับ

ทริปนี้เราพักกันที่ JW MARRIOTT PHUQUOC ซึ่งเป็นโรงแรมที่กำลังดังมากๆในตอนนี้ ดังเพราะอะไรอยากให้ติดตามอ่านจนจบครับ

ออกจากประตูก็เจอเจ้าหน้าที่โรงแรมรอรับเลยครับ ผู้ชาย 2 คนมาด้วยชุดสูทที่แตกต่างกัน ชักตื่นเต้นแล้วสิ

เสียดายที่ถ่ายรูปทางเข้าโรงแรมไม่ทัน โรงแรมใหญ่มากๆ เหมือนเป็นอีกเมืองนึงของเกาะเลย ทางเข้ามีรูปปั้นสุนัขตัวใหญ่มากๆ ขนาบทางเข้า ดูหรูหราและน่าสนใจจริงๆ

มาถึงบริเวณแรก โหยยยย เหมือนเอาตัวเข้ามาอยู่ในนิยายฝรั่ง หรูหรามากๆ กระเบื้อง ของตกแต่ง

หากสังเกตุดีๆจะเห็นว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยที่นี่แอบมีสัตว์ชนิดนึงซ่อนอยู่ใครพอสังเกตุเห็นกันบ้างครับผม

Welcome Drinks เป็นสปาร์คกิ้งไวน์และกาแฟของเกาะครับ ทายสิว่าผมจะเลือกอะไร

ห้ามบอกใครนะ ผมแอบดื่มไป 2 แก้วเลย กระหายน้ำ

ตั้งแต่ภาพนี้เป็นต้นไป ผมอยากให้เพื่อนๆได้ลองช่วยกันทาย ว่าโรงแนี้ได้รับแรงบันดาลการสร้างมาจากสิ่งใด ผมเชื่อว่าหลายคนถ่ายถูกอย่างแน่นอน

มาถึงตรงนี้แล้ว ผมขอเฉลยเลยว่า โรงแรมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก " มหาลัย " นั่นเอง

ปรบมือให้แบบพร้อมเพรียง เก่งมากๆที่ทายถูกครับ

มาถึงแล้วแอบท้องร้อง เราขอเดินมุ่งตรงมายังห้องอาหารบริเวณหน้าหาดกันก่อนที่จะเข้าห้องพักครับ

ห้องอาหารที่นี่ดูโอ่โถงมากๆ และให้บรรยากาศเหมือนห้องอาหารในภาพยนตร์เวทมนตร์เรื่องหนึ่ง

หากคุณชื่นชอบอาหารสุขภาพ ชอบทานผัก ชอบทานปลา เมนูอาหารที่นี่เต็มไปด้วยของที่คุณจะชื่นชอบแน่ๆครับ รสชาติก็ใกล้เคียงอาหารไทย แต่พนักงานที่นี่ดูจะคุ้นเคยกับคนไทยเป็นพิเศษขอพริกน้ำปลาได้ด้วยนะ

ด้านบนเป็นเมี่ยงปลา ด้านล่างเป็นยำส้มโอซีฟู้ด

ไม่ได้เยินยอ ขอบอกว่าอาหารมื้อนี้อร่อยมากๆ และทำให้การทานอาหารเวียดนามของผมที่นี่ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ

อ๋อ อีกอย่างหากเดินทางมาถึงเวียดนามแล้ว อย่าลืมเลือกสั่งน้ำผลไม้ต่างๆ อร่อยมาก ที่นี่อุดมไปด้วยผลไม้จริงๆ แต่ถ้าเป็นมะม่วงไทยชนะขาดลอย แต่พวกน้ำแตงโม น้ำส้มที่นี่แอบอร่อยเหมือนกันนะครับ แต่หากไปสั่งน้ำส้มปั่นตามตลาด ขแนะนำเลยว่าดูดีๆ คนที่นี่ปั่นส้มทั้งเปลือกเลยนะ

ระหว่างเดินไปเข้าห้องพัก สะดุดตากับห้องนี้ ผมคิดว่านี่คือมุมถ่ายรูปที่เด็ดมากๆ หากใครพักห้องนี้ มานั่งกันเป็นคู่ เชื่อเลยว่าจะได้ Instagram Shot เกร๋ๆอย่างแน่นอน

ห้องพักที่นี่แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบมากๆครับ ในส่วนของตึก จะถูกแบ่งออกเป็นตึกต่างๆ และแต่ละตึกจะตกแต่งไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละตึกจะออกแบบตาม คณะครับผม ตึกที่ผมเข้าพักเป็นคณะ Agriculture หรือเป็นตึกเกษตรศาสตร์นั่นเอง ตัวตึกเลยตกแต่งเป็นสีเขียว รูปภาพทั้งหมดในตึกเป็นเรื่องราวของผักพันธ์พืชต่างๆ

ห้องของผมเป็นแบบ Emerald Bay View - ซึ่งเป็นห้องพักเริ่มต้น แต่ขนาดใหญ่ถึง 53 ตารางเมตร มีระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถนอนอาบแดดได้สบายๆ ที่เด็ดไม่แพ้กันคือห้องน้ำที่วัสดุทำจากหินอ่อนสีขาว