เที่ยวญี่ปุ่นมาเยอะ แต่ไม่มีที่ไหนเหมือนกับ Okinawa เกาะสวรรค์ของคนที่ชอบทะเล
ผมเคยมีโอกาสมาเที่ยวที่ Okinawa เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมาเที่ยวแบบงงๆ เพราะข้อมูลน้อยมากๆ แต่รู้สึกว่า Okinawa เป็นเมืองที่สนุกเพราะผมชอบทะเล ชอบวัฒนธรรม ( Culture ) ของเมืองที่อยู่ติดทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ทั้งทริปตื่นเต้นและสนุกกับการเรียนรู้มากๆ ทริปก่อนไม่ค่อยมีโอกาสไปลงน้ำทะเลมากนัก แต่ทริปนี้บอกเลยว่า คือทริปที่ดื่มด่ำกับโลกใต้ท้องทะเลมากๆ เพื่อในอ่านง่ายผมขอแบ่งข้อมูลการท่องเที่ยวแบบตอนๆดังนี้
Chapter 1 โอกินาว่า ทริป โอกิโอใจ
Chapter 2 Zamami Island ครั้งแรกของการ Skin Dive ที่ญี่ปุ่น
Chapter 3 ไปหาน้องฉลามวาฬที่ Aquarium
Chapter 4 เที่ยวในเมือง Okinawa แบบชิลๆ
Chapter 1 โอกินาว่า ทริป โอกิโอใจ
Okinawa เป็นเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แต่มีวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนญี่ปุ่นจ๋าสะทีเดียว เพราะในปรวัติศาสตร์ที่นี่มีการผสมผสานวัฒนธรรมเข้าจากการปกครองและสงคราม ทำให้ที่นี่มีความแตกต่างจากเมืองอื่นๆในเกาะหลักของญี่ป่น
มาอ่านข้อมูลของ Okinawa กัน
โอกินาว่า เป็นเกาะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศไต้หวันเพียง 716 กิโลเมตร
สามารถบินตรงจากดอนเมือง ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงนิดๆเท่านั้น สายการบินแอร์เอเชียพึ่งเปิดเส้นทางนี้
โอกินาว่าเป็นหมู่เกาะที่มีเกาะมากถึง 160 เกาะ และขึ้นชื่อเรื่องความสวยของทะเล น้ำทะเลใสสีสวย สามารถดำน้ำและยังโต้คลื่นได้อีกด้วย
เมืองหลักคือ Naha เป็นเมืองเล็กๆสามารถเดินเที่ยวในเมืองได้ง่าย จากสนามบินใช้เวลาเข้าเมืองแค่ 15 นาที
โอกินาว่าแม้อยู่ในญี่ปุ่น แต่มีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆในญี่ปุ่น
คนส่วนใหญ่นอกจากมาเที่ยวชมความสวยงามของทะเล สถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ทำให้ทุกคนมาถึงโอกินาว่ากันคือ Okinawa Churaumi อควาเรี่ยมที่ใหญ่ติดอันดับโลก ซึ่งจุดเด่นคือมีฉลามวาฬ
มีทั้งหมด 4 ฤดู ฤดูหนาว ธันวาคม-กุมภาพันธ์, ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม-พฤษภาคม, ฤดูร้อน มิถุนายน-สิงหาคม, ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน-พฤสจิกายน เดือนที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดคือ กรกฏาคม,เมษายนและพฤศจิกายน
สิ่งที่ชอบ ทะเลสวย, อากาศใกล้เคียงบ้านเรา,คนใจดีเป็นกันเอง,ค่าใช้จ่ายไม่แพง ( ค่าเงินดีมากตอนนี้ )
สิ่งที่ไม่ชอบ อากาศบางช่วงร้อนมาก, เมืองเล็ก ข้อมูลร้านอาหารและคาเฟ่น้อยมาก
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติเยอะ ใครที่ชอบเที่ยวทะเลหรือกิจกรรม Adventure ไม่ควรพลาด
การท่องเที่ยวในเกาะ Okinawa
เช่ารถไม่แพง แต่ใครที่ไม่อยากขับรถเช่ารถสามารถเลือกใช้รถสาธารณะได้ ทริปนี้ผมไม่ได้เช่ารถเลยเน้นเดิน
1.1 รถไฟฟ้า ที่นี่เป็น Monorail เล็กๆที่ผ่านเส้นทางหลักของเมือง ซึ่งผมไม่ได้ขึ้นเลยเพราะเมืองเล็กมากเน้นเดินเอา
1.2 Taxi ส่วนใหญ่เราจะเดิน แต่ถ้าไม่ไหวหรือต้องเดิินเกิน 3 กิโล เราก็จะเรียก Taxi แทน ค่าแทกซี่ไม่แพงและยังสามารถเรียกผ่าน APP ได้อีกด้วย ( แอป Diditaxi )
1.3 รถทัวร์ ไม่เช่ารถก็สามารถประหยัดเงินไปได้เยอะมากๆ และพวกเราเป็นคนขี้เกียจขับรถ เวลาไปเที่ยวไกลๆเลยเลือก จองทริปรถทัวร์แทน ซึ่งราคาไม่แพงและนอนได้ยาวๆ และเค้ายังมีทริปที่รถทัวร์พาเราไปที่ต่างๆรอบเกาะอีกด้วย สามารถซื้อจองได้ที่ Bus Terminal
การใช้เงิน
2.1 เงินสด ที่นี้ยังสามารถใช้เงินสดได้ ร้านค้ายังรับเงินด
2.2 บัตร Travel Card ต่างๆ เช่น Planet Card ( SCB ), Travel Kbank} ค่าเงินดี ใช้จ่ายได้ง่าย
2.3 บัตรเครดิตหรือบัตรทั่วไป ก็สามารถใช้จ่ายได้ตามปกติเลย
Tips : ใช้บัตร Travel Card คือดีที่สุด คุ้มค่าที่สุดแต่ยังไงก็ตามควรมีเงินสดติดตัวไว้หน่อยนะครับ
คน Okinawa
คนที่นี่ค่อนข้างใจดี ถ้าเป็นวัยรุ่นตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจะพูดภาษาอังกฤษได้ แต่คนอายุเยอะอาจจะพูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่เค้าก็พยายามช่วยมากๆ คนที่นี่ชอบความคึกครื้น ชอบดื่มๆตอนดึกๆ แต่จะไม่บ้าคลั่งเหมือนคนทำงานที่โตเกียว
สิ่งที่อยากแนะนำคนที่วางแผนมาเที่ยว Okinawa
Okinawa ทะเลสวยมากๆ ด้วยความที่เป็นเกาะและรอบๆยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยมากๆมาย ทำให้มีทั้งปะการัง ปลาและน้ำที่นี่ใสมากๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการดำน้ำ หรือ Skin Dive และนำมาในช่วงรอยต่อระหว่าง ช่วงฤดูหนาวและช่วงฤดูร้อน อากาศจะเย็น น้ำเย็นสบาย ช่วงที่ผมมาเป็นฟดูร้อนทะเลสวยมากๆเหมือนกันแต่แดดก็แรงมากเช่นกัน อากาศร้อนเหมือนแดดกรุงเทพเลย
อาหาร Okinawa ไม่เหมือนที่อื่นๆ อาจจะไม่ได้อร่อยหวือหวามากแต่แนะนำให้ทาน เช่น สาหร่ายพวงองุ่น ( Sea Grape ) ที่มีความสดมากๆรู้สึกว่ามีความกรอบเด้งกว่าบ้านเรา, สาหร่ายโมสุกุ ที่โอกินาว่าทำสาหร่ายนี้เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เลย ผมนี้กินไปทั้งทริปนะจะเกิน 12 ถ้วยมันอร่อย กรึบๆ อร่อยกว่าที่กินไทยอย่างแนะนอน เพราะเรามาถึงแหล่งเลย
คน Okinawa Sexy อาจจะเป้นความคิดส่วนตัว ด้วยที่คนบนเกาะนี้ใช้ชีวิตกับทะเล ทำให้มีผิวแทน ญี่ปุ่นผิวแทนมีเสน่ห์มากๆ
หากมาเที่ยวหน้าร้อน แนะนำให้จัดเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถใส่รองเท้าแตะ เสื้อ Muscle ได้ที่นี่เป็นเรื่องปกติ แนะให้ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ
Cafe เจ๋งๆ ไม่ได้มีเยอะมาก แต่ทริปนี้เราปักหมุดหลายๆร้านไว้ให้แล้ว สามารถกดดูได้เลย
ร้านอาหาร ร้านอาหารอร่อยดีๆส่วนใหญ่ต้องจอง ต้องบอกว่าร่้านอาหารบนถนน Kokusai ส่วนใหญ่จะเป็นร้าน Tourist แต่ร้านดีๆส่วนใหญ่จะอยู่ตามซอยเล็กๆด้านหลังของถนนทั้งสองฝั่ง เราแอบปักหมุดร้านดีๆมาให้เช่นกัน
ควรเที่ยวนานแค่ไหน คิดว่า 5 วันสำหรับคนเที่ยวเฉพาะเกาะหลัก และ 7-10 วันสำหรับคนที่ไปดำน้ำหรือเที่ยวตามเกาะเล็กเกาะน้อย
App แปลภาษา
สถานท่องเที่ยว Hightlight ของเกาะนี้มีอะไรบ้าง ( ไล่ตามความน่าสนใจ )
Aquarium
ทะเลและเกาะต่างๆ
Hokusai Street
Gyokusendo Cave
American Village
Okinawa World
ที่พักแนะนำ
สำหรับที่พักในเมือง Naha ราคาโรงแรมโอเคมากไม่แพง เราขอแนะนำที่พักดังนี้
ส่วนพวกเราเลือกพักที่ Rakuten STAY Naha-Miebashi เพราะว่ามากัน 3 คนและเค้ามีห้องแบบเตียง 2 ชั้น มีห้องน้ำห้องอาบน้ำในตัว พื้นที่โอเคเลย และในห้องมีโปรเจกเกอร์ที่สามารถดูหนังได้ด้วย ราคาหารแล้วคนละ 1,000 บาท ถือว่าคุ้มมาก * ห่างจากถนนท่องเที่ยวต้องเดินไกลนิดนึง
Chapter 2 Zamami Island
ไปเริ่มทริปเที่ยวทะเลกันเลยดีกว่าครับ
เกาะ Zamami เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ Kerama ซึ่งเกาะนี้รอบๆมีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลและบนเกาะยังมีชายหาดชื่อดังที่ติดอันดับหาดที่สวย Top10 ในญี่ปุ่นอีกด้วย ชื่อว่า ' หาด Furuzamami ' โดยบนเกาะมีประชากรอยู่เพียง 600 คนเท่านั้น
การเดินทางไปยังเกาะ Zamami เราสามารถไปขึ้นเรือเฟอรี่ได้ที่ ท่าเรือโทมะริในเมืองนาฮะ ห่างจากเมืองนิดเดียวนั่งแทกซี่ไม่ถึง 10 นาที แต่พวกเราเดินไปจากโรงแรม เรือเฟอรี่ชื่อว่า Queen Zamami เรือดีมากๆ สามารถจุได้หลายร้อยคน มีห้องน้ำและตู้กดน้ำด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที สามารถเข้าไปจองเรือได้ที่นี่ https://www.tomarin.com/foreigners.pdf
ส่วนใหญ่คนมาเที่ยวเกาะนี้เพราะทะเลสวย น้ำใสอันดับต้นๆของญี่ปุ่น จุดดำน้ำดีมาก บนเกาะค่อนข้างเงียบสงบมาก ( สองทุ่มคืองเงียบ )
บนเกาะน่าเที่ยวที่ไหนบ้าง
Cafe Yukuruya คาเฟ่ชั้นสองที่สามารถมองเห็นท่าเรือของเกาะ
Furuzamami Beach ชายหาดที่สวยมากๆ สามารถดำน้ำตื้นหน้าหาดได้เลย
จุดชมวิว Unajinosachi จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก
Ama Beach ชายหาดทำกิจกรรมทางน้ำ
Cafe Yukuruya
เมื่อเรามาถึงเกาะ Zamami เพียงเดินเข้าเมืองเราก็จะพบกับ Ao no Yukuru Kan Visitor Center ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์ประชาสัมพันธ์สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ด้านในเค้ามีการจัดแสดงข้อมูลของอุทยาน ข้อมูลความเป็นมาของเกาะต่างๆ ภายในอาคารเดียวกันก็มีคาเฟ่ติดแอร์ อาจจะเป็นที่เดียวของเกาะนี้ คาเฟ่ชื่อว่า Cafe Yukuruya ซึ่งเราสามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆขึ้นไปนั่งดื่มดูวิวได้ที่ชั้นสอง
ตรงอาคารนี้ เป็นเหมือนศูนย์รวมของเกาะ เพราะมีข้อมูลการท่องเที่ยวมากมาย อยากทำกิจกรรมอะไรก็สามารถมาดูข้อมูลร้านต่างๆบนบอร์ดได้เลย และยังเป็นที่ขึ้นรถบัสเดินทางไปที่ต่างๆของเกาะแห่งนี้ด้วย
Furuzamami Beach
จริงๆสำหรับทริปนี้เราตั้งใจแค่มาต้องการมา Skin Dive กับพี่ๆที่ Suntan ที่เค้ามาเที่ยวที่นี่ทุกปี แต่ไกด์ได้พาเรามายังชายหาดชื่อว่า Furuzamami ซึ่งพอหาข้อมูล หาดนี้ดังมากๆเพราะทะเลสีสวย น้ำใสมากๆ และมักจะติดอันดับหาดน่าเที่ยว TOP10 ในประเทศทุกปี
หาดนี้ในช่วงเช้า เค้าจะมาจัดเตียงอาบแดดร่มสีสวย เรียงกันดูเรียบร้อยมากๆ เราสามารถมาเช่าเตียงนอนชิลได้ทั้งวัน ซึ่งอากาศแอบร้อนนิดนึง ใครที่เป็นสายทะเลพกพัดลมมือถือมาจากไทยจะดีมากๆ
สำหรับผมเองที่ชอบเที่ยวทะเล ต้องบอกว่าตกใจมากๆ เพราะ จากหน้าหาด
เรา Snorkeling ลงไปก็เจอกับปะการัง ฝูงปลา ลงไปไม่ถึง 10 เก้าเจอนี่โม่เลย ประทับใจมากๆ
ที่ชายหาดจะมีให้เช่าทั้งฟิน ห่วงยาง แว่นตาดำน้ำและก็ยังมีร้านอาหารรสชาติอร่อยดีด้วย มีเมนูกะเพราะของไทยด้วยนะ คนขายว่ายรุ่นเป็นสาวโอกินาว่าผิวแทน น่ารักมาก : )
นี่คือจากหน้าหาดที่ เมื่อลงมาแล้วก็เจอกับน้องปลา Tomato clownfish หรือปลาการ์ตูนมะเขือเทศเลย
Ama Beach
เป็นอีกหาดที่เรามีโอกาสไปเที่ยวช่วงเย็น เป็นหาดที่คนนิยมมาทำกิจกรรม SUP กระดานยืนพาย ดงนี้เองก็เป็นดงกองหินบริเวณกว้าง ดำลงไป 5 นาทีก็เจอน้องเต่าว่ายมาหา
ที่นี่เค้าเล่าให้ฟังว่ามีเต่าเกินกว่า 600 ตัวรอบๆเกาะ มีมากกว่าประชากรของคนบนเกาะอีก
Food
บนเกาะ Zamami มีร้านอาหารไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่เป็นแนว Home Cooking แต่ต้องบอกว่า อร่อยกว่าหลายร้านในเมือง Naha ซะอีก
Open house - yui お食事処 結 yui
ในทริปนี้ขอยกให้ร้านนี้เป็นร้านที่อร่อยที่สุด ร้านมีอาหารหลากหลาย เมนูพื้นบ้านก็อร่อย มีพาสต้าด้วยพนักงานบริการดี
Restaurant Marumiya レストラン まるみ屋
ร้านอาหารนี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น อาหารอร่อยนั่งสบายที่สุด
Torajiro 寅次郎
ร้านนี้ดิบๆราคาแพง เป็นเมนูพื้นบ้านทั้งหมด พวกโซบะ เทมปุระ
GYPSY COURT ZAMAMI ジプシーコートザマミ
เบื่ออาหารญี่ปุ่นควรตัดเลี่ยนด้วยร้านนี้ซึ่งแอบมีความ Hippie บีชบอยวัยรุ่น จะขายอาหารผสมแมกซิกัน อเมริกัน
บนเกาะมีร้าน Minimart เพียง 1 ร้านเท่านั้น
มาถึง Highlight กันบ้าง นั่นก็คือการไปดำน้ำนั่นเอง โชคดีที่ทริปนี้ผมมากับพี่ๆ Suntan ที่เค้าดูแลจัดการจองเรือ มีไกด์ให้หมด เราก็เลยไปเที่ยวกันแบบสบายๆมีโปรแกรมในแต่ละวันโดยมีเรือส่วนตัวครับ แต่สำหรับเพื่อนๆมากันน้อย เราสามารถจองไป Join Trip หรือจะเหมาเรือลำเล็กก็ได้นะ ราคาไม่ค่อยแพง เพราะว่าจุดดำน้ำ อยู่ใกล้เกาะมากๆ
น้ำตามจุดดำน้ำต่างๆน้ำใสมากๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ด้านล่างเป็นทราย
สรุป
ประสบการณ์ที่ได้มาเที่ยวบนเกาะ Zamami ถือว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่ดีมากๆ เดินทางง่าย บนเกาะเงียบสงบทำให้เราได้ใช้เวลากับคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น เรานั่งกินเบียร์คุยกันทุกคืนชิลมาก ในส่วนของทะเลและการดำน้ำเป็นประสบการณ์ดำน้ำที่ดีอันดับต้นๆในชีวิตเพราะน้ำใสมากๆ สีสวย ปลาเยอะ น้ำเย็นสบายกำลังดี แน่นอนว่าจะต้องกลับมาที่นี่อีกในปีหน้า สำหรับคนที่กำลังวางแผนผมแนะนำให้ค้างที่นี่สัก 2 คืนกำลังดี
ไปเที่ยวกันต่อที่ Okinawa Churaumi Aquarium ที่มาเที่ยวโอกินาว่า ยังไงก็ต้องแวะมาที่นี่
Okinawa Churaumi Aquarium
เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสัตว์น้ำที่น่าสนใจมากๆ เพราะที่นี่มีแทงก์ขนาดใหญ่อันดับต้นๆของโลก และในนั้นก็มีพระเอกของสัตว์น้ำที่หาดูได้ยากมากๆ คือ ฉลามวาฬนั่นเอง
Okinawa Churaumi Aquarium ห่างจากเมือง Naha ประมาณ 90 กิโลเมตร หากมีรถส่วนตัวใช้เวลาขับประมาณ 90 นาที แต่พวกเรา เลือกนั่งรถประจำทาง โดยขึ้นที่ Naha Bus Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า (สามารถจองตั๋วรถได้ที่ Naha Bus Station ควรซื้อล่วงหน้า)
ราคาค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน / นักเรียนม.ปลาย 1,230 เยน / นักเรียนม.ต้นและประถม 610 เยน / เด็กต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
ที่นี่แสดงสัตว์นานาชนิดกว่า 710 สปีซีส์และมีแทงก์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยบรรจุน้ำกว่า 1 ล้านลิตร
คำว่า "Chura" ในภาษาถิ่นโอกินาวาหมายถึง "สวยงาม" ส่วน "Umi" หมายถึง "ทะเล" ดังนั้นชื่อ "Churaumi" จึงหมายถึง "ทะเลที่สวยงาม"
ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้นและแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ
The Coral Sea เป็นโซนปะการังที่จัดแสดงอย่างสวยงาม มีข้อมูลต่างๆให้อ่านตลอดทาง
The Kuroshio Sea เป็นโซนพระเอกที่มีแทงก์น้ำขนาดใหญ่ มีทั้งฉลามวาฬและกระเบนสายพันธ์สายพันธ์ต่างๆ
The Shark Research Lab จัดแสดงฉลามพันธ์ต่างๆ
The Deep Sea โซนจัดแสดงสัตว์ในทะเลลึกที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกกว่า 300 เมตร
The Kuroshio Sea ก่อนที่จะไปถึงแทงก์ใหญ่จะมีห้องลักษณะเป็น theater สามารถนั่งกระเบนได้ ห้องนี้ดีมากๆ แต่หลายๆคนจะเดินผ่าน
ที่นี่ค่อนข้างมีป้ายแสดงข้อมูลที่ครบถ้วนมากๆ โดยเฉพาะในโซนของกระเบนและฉลาม อ่านเพลินอาจจะใช้เวลาอยู่ในนี้ได้หลายชั่วโมง
เดินมาอีกนิดก็จะเจอ Hightlight ที่ทุกคนมาถ่ายรูปเช็คอินกัน โดยกระจกมีขนาดใหญ่มากๆ และเราก็ได้เห็นพระเอกของที่นี่ เจ้าฉลามวาฬตัวใหญ่ที่ว่ายมาอวดโฉมให้ทุกคนได้ชมกัน
ปลาฉลามวาฬ เป็นปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
และอันนี้น่าสนใจมากๆ คือคาเฟ่ด้านข้างชื่อว่า Ocean Blue cafe ซึ่งมีที่นั่งติดกระจกเลย ซึ่งโซนนี้เราจะต้องเสียเงินเพิ่ม นั่ง 40 นาที ราคา 500 เยน และต้องรอคิวนะครับ ( ใช้เวลารอคิวประมาณ 40 นาที แนะนำว่ามาถึงตรงแทงก์ฉลามวาฬให้พุ่งมาเอาบัตรคิวที่นี่ก่อนเลย ) อยากให้ลองมานะเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ
ใครที่อ่านแล้ว เริ่มสนใจอยากไปเที่ยว Okinawa ที่ตอนนี้บินตรงไปเที่ยวได้ง่ายมากและอากาศกำลังดีทะเลสวย แนะนำให้ไปลองดูตั๋วกันเลย ที่ www.airasia.com
กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - โอกินาว่า 🇯🇵
🌺 บินตรง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์และอาทิตย์
FD 240 กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - โอกินาว่า เวลาออก 08.00 เวลาถึง 14.55
FD 241 โอกินาว่า - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เวลาออก 15.55 เวลาถึง 18.50
ฝากติดตามอ่านตอนหน้ากันด้วยนะครับ