CANGGU, BALI
หลายปีที่ผ่านมาผมตกหลุมรักการ #เที่ยวบาหลี โดยเฉพาะเมืองเล็กๆอย่าง Canggu ( ชาง-กู ) เมืองโต้คลื่นที่เต็มไปด้วยที่พักสวยๆ คาเฟ่เกร๋ๆ การใช้ชีวิตอย่างช้าๆที่มีเสน่ห์ ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ลองอ่านบันทึกการเดินทางของที่อาจจะทำให้คุณตกหลุมรัก Cangguเช่นกัน
#Canngu #Bali #Surf #เที่ยวบาหลี

Canggu อ่านว่าชางกู ในอดีตที่นี่คือหมู่บ้านประมงเล็กๆ อยู่ทางตอนเหนือของหาดดูต้าประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ชางกูปัจจุบันกลายเป็นที่นิยมสำหรับท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักโต้คลื่นและคนที่ชื่นชอบทะเล เสน่ห์ของที่นี่ก็คือการคงไว้ของการเติบโดไปอย่างช้าๆและยังคงเสน่ห์ของการเมืองเล็กๆ ที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก รถไม่ติด เดี๋ยวทริปนี้ผมจะพาไปเที่ยวรอบๆชางกูกันครับ
จริงๆเมื่อ 4 ปีที่แล้วคนไทยรู้จักชางกูน้อยมากๆ ผมบังเอิญเจอเมืองเล็กแห่งนี้จากการบอกต่อของเพื่อนๆที่ชอบโต้คลื่น และเจอภาพวิลล่า คาเฟ่ๆสวย ที่ดูแตกต่างจากที่อื่นๆในบาหลี ( ที่สำคัญราคาถูก ) ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปทันที

ทริปแรกที่ผมมาที่นี่ผมเลือกพักแบบวิลล่า เพราะว่าราคาค่อนข้างถูกกว่าวิลล่าในเมืองไทย คืนละประมาณ 4,000 บาท สามารถพักได้ถึง 4 - 5 คน ข้อดีของวิลล่าคือความเป็นส่วนตัว มีสระว่ายน้ำ มีห้องครัว วิลล่าจึงเหมาะกับการพักที่ค่อนข้างยาว 3 วันขึ้นไปกำลังดี แต่ข้อเสียหากเราต้องเดินทางบ่อย ทริปเที่ยวเยอะ การพักวิลล่าก็ไม่ค่อยสะดวกเช่นกัน เช่นบางที่ไม่สามารถเช็คอินก่อนเวลา ไม่สามารถฝากกระเป๋า และอาจมีข้อจำกดัหลายๆอย่าง

อ่านทริปการเที่ยว Canggu ครั้งแรกได้ที่ https://pantip.com/topic/36489440

การกลับไปชางกูครั้งนี้ผมเลยตัดสินใจเลือกพักแบบโรงแรมดูบ้าง ทริปนี้เราเลือกพักกันที่ Eastin Ashta Canggu ( เพื่อนๆอาจจะคุ้นเคยชื่อโรงแรม Eastin อยู่บ้าง เพราะ Eastin คือเครือโรงแรมจากประเทศไทย ) Eastin Ashta Canggu พึ่งจะเปิดไปได้ไม่นาน และกำลังมีโปรโมชั่นลด 50% เพราะฉะนั้นเลือกโรงแรมนี้แหละ คุ้มและน่าจะมีมาตรฐานที่ดี

จากสนามบินเดินทางไปยังชางกู จริงๆแล้วระยะทางเพียงแค่ 21 กิโลเมตร แต่หากผ่านเส้นทางของคูต้าก็อาจใช้เวลานานถึง 50 นาที ค่ารถ Taxi จากสนามบินประมาณ 350,000 - 400,000 IDR เพื่อนๆสามารถจองรถจากโรงแรมให้ไปรับได้ก็สะดวกดี ราคาไม่ได้แพงกว่ากันมาก

Eastin Ashta Canggu ตั้งอยู่ใกล้กับชายหาดเพียง 300 เมตรเท่านั้นและยังสามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย ใครที่ขับมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์ไม่เป็นก็เดินเอา ไม่ลำบาก

Eastin Ashta Canggu มีห้องพักทั้งหมด 119 ห้อง ซึ่งแบ่งเป็นประเภทดังนี้ครับ
1. Superior Room ( 90 ห้อง ) ห้องขนาด 30 ตารางเมตร คุ้มค่าที่สุด !!!
2. Deluxe Room ( 20 ห้อง ) ห้องขนาด 33 ตารางเมตร
3. Executive Deluxe Room ( 6 ห้อง ) ห้องขนาด 39 ตารางเมตร
4. Junior Suite ( 2 ห้อง ) ห้องขนาด 55 ตารางเมตร
5. Suite ( 1 ห้อง ) ขนาด
สำหรับทุกคนจะเป็นระบบเครื่องปรับอากาศ มีโทรทัศน์ High-Speed Wifi อินเตอร์เน็ตค่อนข้างดีกว่าที่อื่นๆนะ ที่ชอบอีกอย่างชื่อในห้องพักมีที่เสียบชาร์จแบบ USB เลย โรงแรมอื่นๆในบาหลีไม่ค่อยมีนะ
สำหรับห้องที่เราเลือกพัก ก็แน่นอนครับถามฐานะของผมเองและเงินหลายล้าน IDR ที่แลกมา ผมเลยเลือกที่จะพักห้องเริ่มต้น Superior Room ครับ ++
ห้องของผมเบอร์ 315 ประตูแง้มไว้ไม่ได้ล๊อคนะครับ : )


ห้องของเรา แม้ว่าตอนแรกคิดว่าห้องต้องเล็กมากแน่ๆครับ แต่พอมาถึงจริงๆ ห้องไม่ได้เล็กอย่างที่คิดเลยครับ แถมยังมีพื้นที่เก้าอี้นั่งอ่านหนังสือ มีพื้นที่ระเบียงใช้ได้เลย

อ่างล้างหน้าจะอยู่ภายนอกห้องน้ำ มีพื้นที่วางข้าวของส่วนตัวของผมเพียบเลย ผมว่าโรงแรม Eastin ค่อนข้างออกแบบได้ทันสมัยแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆที่นี่ โดยปกติโรงแรมในบาหลีจะค่อนข้างเก่า

ที่เซอร์ไพร์สมากคือ ที่นี่เลือกใช้ฝักบัวอันลือชื่อเหมือนโรงแรมชื่อดังอย่าง La Vela ในประเทศไทย ( ราคาเปิดตัวฝักบัว 2017 ราคาประมาณ 3x,xxx บาท ) มีระบบนวดไหล่ด้วยนะ อันนี้ดีมากเลย

แฮ่ แม้ว่ามาเที่ยวบาหลี แต่งานของผมเพียบเลย ที่ห้องมีพื้นที่โต๊ะค่อนข้างกว้าง สามารถทำงานได้สบาย มีชา กาแฟ เครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้ด้วย

สำหรับวันนี้ผมมีแพลนไปโต้คลื่นกัน ผมเลยนั่งรีบเคลียงานประมาณ 1 ชั่วโมง ( Internet ดี ) ส่วนเพื่อนผม ติ๋ว ก็พักผ่อนหย่อนใจตามสบาย

ที่ผมชอบมากๆคือลวดลายผนังที่ทำออกมาสวยงาม ดู Tropical มากๆ สอบถามพนักงานมา เค้าบอกว่าแต่ละห้องไม่เหมือนกันด้วยนะ



อันนี้ก็ชิลไปนะครับเพื่อน

ผมทำงานเสร็จเร็วกว่าที่คิดครับ เลยชวนติ๋วไปดู เดินเล่นรอบๆโรงแรมซะหน่อย

ทีชางกู เหมือนเค้าเหมือนจะมีกฏให้สร้างอาคารได้ไม่เกิน 5 ชั้นนะ แทบจะไม่มีตึกสูงๆเลย